ไฝ คืออะไร ลักษณะแบบไหนเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง

29

“ไฝ” สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วทั้งร่างกาย แม้แต่ใต้เล็บก็เกิดขึ้น และสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้ตลอดเวลา หรืออาจจะจางหายไปได้ แต่ไฝบางชนิดก็ก่อให้เกิดอันตรายเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง

ไฝ คืออะไร

เกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสีของร่างกายมีการรวมตัวในบริเวณเดียวกันจนเห็นเป็นสีเข้ม อาจเป็นสีน้ำตาลหรือดำ และอาจมีลักษณะเรียบหรือนูน การเกิดของไฝมีทั้งที่เป็นมาตั้งแต่แรกเกิด หรือเกิดในภายหลัง โดยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งมีสีเข้มขึ้นหรืออ่อนลง เม็ดใหญ่ขึ้นหรือจางหายไปก็ได้  

ลักษณะไฝที่ต้องเฝ้าระวังคือ 

  1. A – Asymmetry ไฝโดยทั่วไปมักมีขนาดกลม ไฝที่มีรูปร่างไม่สมมาตรมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นมะเร็ง 
  2. B – Border ขอบเขต โดยขอบเขตของไฝที่มีโอกาสกลายเป็นมะเร็งมักมีขอบเขตไม่สม่ำเสมอหรือไม่ชัดเจน 
  3. C – Color สี โดยทั่วไปไฝหนึ่งเม็ดควรจะเป็นสีเดียวกัน หากสีของไฝไม่สม่ำเสมอหรือมีหลายสีในเม็ดเดียวควรระวัง 
  4. D – Diameter ขนาด หากไฝมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 6 มิลลิเมตร อาจเป็นมะเร็งผิวหนังได้ 
  5. E – Evolving การเปลี่ยนแปลง หากไฝมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนหรือเร็วเกินไป เช่น สี ขนาด รูปร่าง โตเร็วผิดปกติ ตกสะเก็ด หรือมีเลือดออก ควรระวังและปรึกษาแพทย์ 

ผู้ที่มีความเสี่ยงการเกิดมะเร็วผิวหนัง 

  • มีผิวสีอ่อนหรือไวต่อแสงมาก 
  • มีไฝจำนวนมาก 
  • มีไฝขนาดใหญ่แต่กำเนิด 
  • ไฝมีลักษณะผิดปกติหรือมีการเปลี่ยนแปลง 
  • ได้รับแสงแดดมากในช่วงวัยเด็ก/วัยรุ่น 
  • โดนแสงแดดมากและเป็นประจำ 
  • ครอบครัวมีประวัติมะเร็งผิวหนัง 
  • ได้รับยากดภูมิบางชนิด 

วิธีการกำจัดไฝ 

หากสงสัยภาวะมะเร็งผิวหนัง ควรทำการฝานหรือตัดเพื่อส่งตรวจชิ้นเนื้อ ไม่ควรทำเลเซอร์ แต่ถ้าหากได้รับการตรวจว่าไฝนั้นไม่มีลักษณะที่เข้าข่ายสงสัยมะเร็งผิวหนังก็สามารถเอาออกด้วยการทำเลเซอร์ได้ ซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี คือ การทำเลเซอร์และการตัดออก ขึ้นอยู่กับระดับความลึกของไฝ และดุลยพินิจของแพทย์ผู้ตรวจ  

การวินิจฉัยมะเร็งผิวหนัง 

การวินิจฉัยมะเร็งผิวหนังสามารถทำได้หลังจากที่แพทย์ตัดชิ้นเนื้อของไฝที่น่าสงสัย เพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา ปัจจุบันมีการใช้ dermoscope เพื่อใช้ในการตรวจคัดกรองมะเร็งผิวหนังระยะเริ่มแรกรวมถึงการทำ mole mapping ซึ่งเป็นการถ่ายรูปตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยเครื่อง FOTO finder เพื่อตรวจติดตามลักษณะของไฝอย่างใกล้ชิดและจะมีการทำซ้ำทุกปีจึงสามารถตรวจหาการเกิดไฝเม็ดใหม่ ๆ ได้ 

การมีไฝที่หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากเราเข้าใจว่าไฝสามารถเกิดความความผิดปกติได้ ดังนั้นจึงควรหมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงของไฝ หากพบว่าว่าผิดปกติควรพบแพทย์ทันทีเพื่อให้วินิจฉัยโรค