พิธีผูกข้อไม้ข้อมือแต่งงานจะนิยมทำกันในช่วงเช้า หากอยากแห่ขันหมากก่อนการผูกข้อมือก็สามารถทำได้ ทั้งนี้ก่อนการผูกข้อมือแต่งงานต้องมีการเตรียมสถานที่และเตรียมสิ่งของสำหรับพิธีการให้พร้อม โดยมีรายละเอียดต่างๆที่สำคัญดังนี้
สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับการผูกข้อไม้ข้อมือแต่งงาน
- พานธูปเทียนแพ สำหรับยกกราบไหว้พ่อแม่หรือผู้หลักผู้ใหญ่ เมื่อคู่บ่าวสาวยกพานธูปเทียนแพให้กับผุ้หลักผู้ใหญ่แล้ว จึงจะมีการผูกข้อมือให้
- ด้ายมงคล ไว้สำหรับผูกข้อมือให้กับคู่บ่าวสาว
- พานดอกไม้ธูปเทียน
- หมอนไว้สำหรับรองกราบ 2 ใบ
- พานบายศรี จะมีกล้วยสุก ไข่ต้ม ข้าวเหนียวนึ่งใหม่ ข้าวต้มมัด ดอกพุทธรักษา ดอกดาวเรือง หรือดอกไม้ที่เป็นมงคลอื่นๆ
- พานสำหรับวางของ
ทั้งนี้สิ่งของที่ต้องเตรียมอาจมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่ละภาค แต่สิ่งสำคัญในการผูกข้อมือคือการได้กราบพ่อแม่ผู้มีพระคุณ และได้รับคำอวยพรให้กำลังใจในการใช้ชีวิตคู่
ขั้นตอนการผูกข้อไม้ข้อมือแต่งงาน
พิธีการผูกข้อมือแต่งงาน โดยทั่วไปแล้วจะทำหลังจากที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวให้พานธูปเทียนแพแก่พ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่แล้ว จึงจะมีการผูกข้อมือให้ และสำหรับคู่บ่าวสาวบางคู่เลือกที่จะผูกข้อมือแทนการรดน้ำสังข์ ซึ่งพิธีการของแต่ละภาคจะแตกต่างกันออกไปตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น แต่โดยทั่วไปจะมีขั้นตอนการผูกข้อไม้ข้อมืองานแต่งดังนี้
- นำดอกไม้ธูปเทียน ไหว้ญาติผู้ใหญ่ เริ่มจากพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงไปนั่งในที่ที่ได้จัดเตรียมไว้ จากนั้นเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะกราบลงที่หมอน แล้วจึงส่งพานที่มีดอกไม้ธูปเทียนให้กับญาติผู้ใหญ่ จากนั้นก็จะมีการอวยพรให้กับคู่บ่าวสาวให้มีแต่ความสุขความสำเร็จในชีวิต
- กราบไหว้ขอขมา พ่อแม่ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะทำการยกพานธูปเทียนแพพร้อมผ้าไหว้ แล้วคลานหมอบกราบพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย แล้วพูดฝากเนื้อฝากตัว จากนั้นพ่อแม่จะเปิดธูปเทียนแพ แล้วอวยพรให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาว
- พิธีการผูกข้อไม้ข้อมือ พอถึงขั้นตอนนี้ พ่อแม่และญาติผู้ใหญ่จะหยิบด้ายมงคลมาผูกข้อมือให้กับคู่บ่าวสาว เพื่อเป็นการรับขวัญ จากนั้นจะมีการอวยพรให้กับคู่บ่าวสาว แล้วมอบเงินขวัญถุงหรือสิ่งของอื่นๆที่มีค่าให้กับคู่บ่าวสาว เพื่อใช้เป็นทุนในการเริ่มต้นชีวิตคู่ต่อไป
พิธีแต่งงานนั้นมีลำดับขั้นตอนเยอะพอสมควร ทั้งการผูกข้อไม้ข้อมือให้กับคู่บ่าวสาว และงานเลี้ยงในตอนเย็น ทั้งนี้การจัดงานขึ้นอยู่กับความพอใจว่าจะจัดงานแบบไหน หากเชิญแขกมาร่วมงานเยอะอาจจะต้องใช้งบประมาณในการจัดงานมาก แต่หากเชิญมาเฉพาะคนที่สนิทหรือเชิญแค่ญาติพี่น้องทั้งสองฝ่าย ก็จะเป็นการประหยัดงบประมาณในการจัดงานแต่งได้พอสมควร
